แน่นอนว่าถ้าเอยถึง ชา แล้วก็ย่อมนึกถึกลิ่นที่มีความหอมสดชื่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งประเภทของชาในปัจจุบันนี้มีมากมาย ทั้งที่เป็นชาจากสมุนไพรต่าง ๆ ชาดอกไม้ และชาที่ได้จากใบชาไม่ว่าจะเป็น ชาดำ ชาเขียว ชาอู่หลง รวมถึง ชาขาว นี้ด้วย ให้ผู้บริโภคได้เลือกดื่มตามความชอบ แต่จะมีคุณประโยชน์แก่ร่างกายอย่างไรบ้างนั้น ติดตามในบทความนี้กันเลยค่ะ
รู้จักกับที่มาของ ชาขาว ก่อนนำมาปรุงเป็นเครื่องดื่ม
ชาขาว (White Tea) มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน และอินเดีย ชาขาว นิยมไปเก็บเกี่ยวต้นชานี้ในฤดูใบไม้ผลิ ของเขตทางเหนือฝูเจี้ยน ถึงแม้จะมาจากพันธุ์พืชเดียวกันกับชาเขียว ชาดำ แต่ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อย ชาขาวเป็นชาที่ผ่านกระบวนการการแปรรูปหรือผ่านขั้นตอนการแปลสภาพที่น้อยกว่าชาประเภทอื่น ๆ จึงทำให้ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นชา ทั้งกลิ่น และรสชาติคงเดิมไว้ ไม่เปลี่ยนแปลงมากเหมือนกับชาอื่น ๆ
ประโยชน์ของ ชาขาว ที่คุณควรรู้
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ทำหน้าที่คอยซ่อมแซมเซลล์ที่ได้รับความเสียหาย ต้านการอักเสบ และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย เพราะสารจากธรรมชาติเหล่านี้จะสามารถเข้าไปปกป้องไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยได้
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
เพราะสารโพลีฟีนอลมีคุณสมบัติช่วยปรับปรุงหลอดเลือดให้เกิดการไหลเวียน และลดระดับคอเลสเตอรอลที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคหัวใจผู้ที่ดื่มชาขาวในปริมาณ 3 ถ้วยขึ้นไป ต่อวัน สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ช่วยขยายหลอดเลือด ป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน และการดื่มชายังช่วยรักษาอาการเจ็บหน้าอก และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้อีกด้วย
- ช่วยให้เจริญอาหารและดูแลระบบขับถ่าย
การดื่มชาแก่ๆ สามารถช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร และช่วยในการย่อยอาหารจำพวกวิตามินได้อีกด้วย การดื่มชามีผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ สามารถช่วยสลายไขมัน ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด โดยไปเพิ่มการขับคอเลสเตอรอลในร่างกายผ่านทางน้ำดีในอุจจาระ
- ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
การดื่มชาเป็นประจำช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง มีความสดชื่น สามารถช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้ มีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยชะลอความชราและช่วยบำรุงผิวพรรณได้
- ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปาก
ชาขาวเป็นแหล่งรวมของสารประกอบที่มีประโยชน์หลายประเภท ทำให้ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดอาการฟันผุ และทำให้พื้นผิวของฟันมีความแข็งแรงขึ้น ป้องกันอาหารที่มีความเป็นกรดเข้ามากัดกร่อนทำลายชั้นฟันภายใน
ควรดื่มชาเวลาไหนดี ?
- ควรดื่มชาขาวหลังจากที่ชงเสร็จใหม่ๆ ดื่มเมื่อยังอุ่นๆ อยู่จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากใบชา มากกว่าการชงดื่มแบบเย็นหรือปล่อยให้อุณหภูมิปกติ เพราะคุณประโยชน์ของชาก็จะค่อยๆ ลดลงและจางลงไปไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน โดยหลังจากชงชาร้อนๆแล้ว ไม่ควรที่จะปล่อยไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง สีของน้ำชาที่เปลี่ยนไป กลายเป็นสีที่คล้ำลงและมีรสชาติฝาด หากเราดื่มชาตอนที่มีรสฝาด จะส่งผลกระทบมายังกระเพาะอาหารและลำไส้ได้
- ควรดื่มชาขาวหลังทานอาหารไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง สามารถช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี โดยน้ำย่อยจะหลั่งออกมาภายในกระเพาะอาหารเพียงพอที่จะย่อยอาหารจำพวกวิตามินต่างๆ ได้ และสำหรับคนที่ชอบจิบน้ำชาแทนการดื่มน้ำเปล่าหรือคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แนะนำว่าควรเลือกจิบน้ำชาแบบอ่อนแทนการจิบน้ำชาแบบแก่ เพราะการจิบน้ำชาแบบแก่อาจจะทำให้ภายในกระเพาะอาหารเกิดการหลั่งกรดออกมามากเกินไป จนเกิดการระคายเคืองภายในกระเพาะอาหารได้
- ควรดื่มชาร้อน 4 ถ้วยต่อวัน เพื่อช่วยบำรุงกระดูกและฟัน เนื่องจากภายในใบชาขาวมีสารไฟโตเคมีคอลที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงขึ้น
ชาขาวผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการดื่มชา
ภายในชาขาว อาจมีส่วนผสมของคาเฟอีนร่วมอยู่ด้วย แต่มีปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าเทียบกับ ชาเขียว (Green tea) และ ชาดำ (Black tea) ดังนั้นผู้ที่แพ้คาเฟอีน อาจมีพฤติกรรมถึงอาการที่แตกต่างกันไป และหากคุณเคยมีประวัติการแพ้สารนี้ โปรดหลีกเลี่ยงการดื่มชาดังกล่าว และหันมารับประทานน้ำผัก ผลไม้ทดแทน จะเป็นการดีที่สุด
การดื่มชาขาวหรือชาทุกประเภท ล้วนให้ประโยชน์แก่ร่างกายด้วยกันทั้งสิ้น แต่ถ้าจะให้ผลที่ดีนั้นก็ควรที่จะพยายามที่จะไม่ควรเติมความหวานลงไป เพราะอาจทำให้สรรพคุณในชาลดลงได้ จนบางครั้งร่างกายได้รับประโยชน์จากการดื่มชาน้อยอย่างที่ไม่ควรเป็นเลยนั่นเอง
ขอบคุณรูปจาก
https://www.gourmetandcuisine.com
https://www.technologychaoban.com
อ่านต่อที่ พืชสมุนไพร